ประกันสังคม X ธอส. ปล่อยกู้เงินให้ผู้ประกันตนมาตรา 33 ซื้อบ้านได้ ดอกเบี้ยคงที่ 5 ปี 1.99% ต่อปี
นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้มอบหมายให้ นายสุรชัย ชัยตระกูลทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน เป็นประธานและสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในโครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อผู้ประกันตน ในระหว่างสำนักงานประกันสังคมกับธนาคารอาคารสงเคราะห์ โดยมี นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน ลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมกับนายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ โดยมีผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงาน ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามฯ ณ ห้องประชุมชั้น 5 อาคารกระทรวงแรงงาน นายสุรชัย กล่าวกับสื่อว่า รัฐบาลภายใต้การนำของท่าน พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.การกระทรวงกลาโหม ให้ความสำคัญกับการยกระดับคุณภาพชีวิตและเสริมสร้างหลักประกันความมั่นคงให้แก่ผู้ใช้แรงงาน ซึ่งบ้านหรือที่อยู่อาศัยเป็นปัจจัยหนึ่งที่ช่วยเสริมสร้างความมั่นคงให้ผู้ใช้แรงงานได้ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น แต่
ในปัจจุบันการที่จะซื้อบ้านแต่ละหลังมีราคาแพง ท่านสุชาติ ชมกลิ่น รมว.การกระทรวงแรงงาน มีมีแนวคิดที่จะช่วยเหลือลดค่าใช้จ่ายให้ผู้ประกันตนที่ยังไม่มีบ้าน ให้ได้มีบ้านเป็นของตัวเองไว้ได้อยู่อาศัยในยามเกษียณ จึงได้ให้สำนักงานประกันสังคมได้เร่งดำเนินโครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อผู้ประกันตน โดยให้ร่วมมือกับธนาคารอาคารสงเคราะห์ จัดโครงการดังกล่าวขึ้นมา ภายในวงเงินจำนวนไม่เกิน 30,000 ล้านบาท

ด้าน นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม (สปส.) กล่าวว่า
โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อผู้ประกันตนนี้สำนักงานประกันสังคมได้ลงนามบันทึกข้อตกลงกับธนาคารอาคารสงเคราะห์ เพื่อให้ผู้ประกันตนในระบบประกันสังคม มาตรา 33 ที่จ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 6 เดือน สามารถใช้สิทธิในการลดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อที่อยู่อาศัย ซึ่งผู้ประกันตนสามารถใช้สิทธิในรีไฟแนนท์ จากสถาบันการเงินอย่างอื่น รวมถึงเพื่อลดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อที่อยู่อาศัยในบัญชีเงินกู้ที่ได้กู้อยู่กับธนาคารอาคารสงเคราะห์ นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ กล่าวอีกว่า ในวันนี้ ธนาคารอาคารสงเคราะห์มีความยินดีอย่างยิ่ง ที่ได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับสำนักงานประกันสังคม ซึ่งธนาคาร ธอส.พร้อมสนับสนุนนโยบายรัฐบาลในการช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับประชาชนตามโครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อผู้ประกันตน

โดย ธนาคารอาคารสงเคราะห์ พร้อมจะช่วยบรรเทาค่าใช้จ่ายด้านการชำระเงิน
งวดที่อยู่อาศัยผ่านสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ อัตราคงที่ ปีที่ 1-5 ปี เท่ากับ 1.99% ต่อปี ปีที่ 6–8 เท่ากับ MRR-2.00% (4.15%) ต่อปี และปีที่ 9 จนไปถึงตลอดอายุสัญญา เท่ากับ MRR-0.50% (5.65%) ต่อปี (ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ย MRR ของ ธอส.อยู่ที่ 6.150% ต่อปี) ผ่อนนานสูง 40 ปี ให้กู้ได้ไม่เกิน 2 ล้านบาท โดยผู้ประกันตนสามารถขอรหัสเข้าร่วมโครงการผ่าน Application : GHB ALL หรือ GHB ALL GEN ได้ตั้งแต่วันที่ 16 ธ.ค. 2565 เวลา 8.00 น. ถึงวันที่ 15 มกราคม 2566 เวลา 24.00 น. ซึ่งผู้ประกันตนได้รับรหัสเข้าร่วมโครงการผ่านช่องทาง GHB Buddy ใน Line จากนั้นนำรหัสที่ได้รับมาประกอบการยื่นขอสินเชื่อได้ที่ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ทุกสาขาทั่วประเทศ
ทั้งนี้ ผู้ประกันตนที่มีความสนใจเข้าร่วมโครงการสามารถดาวน์โหลด GHB ALL GEN ได้ที่ App Store, Google Play และ App Gallery สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ทุกสาขาทั่วประเทศ G H Bank Call Center โทรศัพท์ 0-2645-9000 หรือ Facebook ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และสามารถติดตามข่าวสารของธนาคารได้ที่ Mobile Application : GHB ALL,Mobile Application : GHB ALL GEN และ www.ghbank.co.th ทั้งนี้ ผู้ประกันตนที่มีความสนใจ สามารถติดต่อขอหนังสือรับรองสถานะความเป็นผู้ประกันตนแบบอิเล็กทรอนิกส์กับสำนักงานประกันสังคมทุกสาขา เพื่อประกอบการยื่นกู้กับธนาคารอาคารสงเคราะห์ ได้ตั้งแต่วันที่ 20 ธ.ค. 2565 ถึง 19 ธ.ค. 2566 และสามารถทำนิติกรรมภายในวันที่ 31 มกราคม 2567” สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ ทั้ง 12 แห่ง สำนักงานประกันสังคมจังหวัด/ สาขา/ ที่ท่านสะดวก หรือสามารถโทรสายด่วน 1506 สอบถาม ได้ตลอด 24 ชม. หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.sso.go.th

ประกันสังคม “ม.33-ม.39” รีบไปใช้สิทธิทำฟันฟรี ก่อนหมดปี เช็กเลยมีรายการไหนบ้าง?
ประกันสังคม “ม.33-ม.39” รีบไปใช้สิทธิทำฟันฟรี งบ 900 บาท ก่อนจะหมดปี 2565 ไม่ต้องสำรองจ่าย เช็กเลยทำรายการไหนได้บ้าง
ประกันสังคมให้สิทธิทำฟันฟรี งบ 900 บาทต่อปี ไม่ต้องสำรองจ่ายให้กับผู้ประกันตน ม.33 และผู้ประกันตนมาตรา 39 (ไม่นับผู้ประกันตน ม.40) สามารถทำฟันฟรีได้ ไม่ต้องสำรองจ่าย ใช้แค่เพียงบัตรประชาชนใบเดียวเท่านั้น ได้สิทธิรักษา ดังนี้
- ขูดหินปูน
- อุดฟัน
- ถอนฟัน
- ผ่าฟันคุด
แต่ถ้าค่ารักษาเกินงบ 900 บาท ผู้ประกันตนจะต้องจ่ายเงินส่วนเกินเอง สามารถไปคลินิก หรือสถานพยาบาลที่มีป้ายสิทธิทำฟันประกันสังคม 900 บาท ไม่ต้องสำรองจ่าย
ผู้ประกันตนที่จะใช้สิทธิได้จะต้องส่งเงินสมทบมา แล้วครบ 3 เดือน ภายในเวลา 15 เดือน ก่อนวันรับบริการทางการแพทย์ แต่ถ้าลาออกจากการทำงานแล้ว ยังไปทำฟันได้ เพราะทางประกันสังคมยังคุ้มครอง 6 เดือน
อย่างไรก็ตาม ก่อนไปทำฟันควรเตรียมตัว โดยมีรายละเอียดดังนี้
1. ควรแปรงฟันให้สะอาด เพื่อเพิ่มความมั่นใจของเราเอง รวมถึงทันตแพทย์จะได้แนะนำได้ในจุดที่เราอาจยังดูแลไม่ทั่วถึง จะได้ปรับการทำความสะอาดและดูแลช่องปากได้ดีกว่าเดิม
2. ผู้ใดที่มีโรคประจำตัว หรือแพ้ยา ควรแจ้งให้ทางทันตแพทย์หรือคลินิกได้ทราบไว้ จะได้ประเมินเบื้องต้นได้ว่ามีผลต่อการรักษาหรือไม่
3. ควรจะมีการนัดหมายหรือจองเวลาล่วงหน้า เพื่อที่ทั้งฝ่ายตัวเราเองและคลินิกจะได้มีการเตรียมตัวและวางแผนการรักษาให้พร้อม
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประกันสังคมได้ที่ www.sso.go.th หรือโทรสายด่วน 1506 ให้บริการทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง